Search for:
  • Home/
  • Games News/
  • ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ บุคคลถูกค้นหามากสุดใน Google ปี 2023!

‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ บุคคลถูกค้นหามากสุดใน Google ปี 2023!

จากที่เว็บไซต์ Google ได้จัดอันดับการค้นหาในปี 2023 เผยแพร่คำหรือข้อความที่ถูกค้นหามากที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2566 โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 12 หมวด หนึ่งในนั้น คือ ‘หมวดบุคคล’ ซึ่งระบุบุคคลที่ถูกค้นหามากที่สุดคือ ‘นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หรืออดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนเดียวของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งปี 2566

10 ข่าวฮิต ติดยอดเสิร์ช Google ในประเทศไทย 2566

ส่องการค้นหายอดฮิตบน Google ทั่วโลกในรอบปี ผ่าน "Year in Search 2023"

ความหมาย 10 อันดับการค้นหา "ทำอย่างไร" ติด Google ในรอบปี 2023

โดย 10 อันดับบุคคลที่ถูกค้นหามากที่สุดใน Google ประทศไทยปี 2566 ได้แก่

  1. พิธา
  2. ต่าย ชุติมา
  3. เอส กันตะพงศ์
  4. เศรษฐา ทวีสิน
  5. ยงยุทธ วิชัยดิษฐ
  6. ไอซ์ ปรีชญา
  7. เบนซ์ เดม่อน
  8. หนุ่ม กะลา
  9. อ๊อฟ ศุภณัฐ
  10. บิว จักรพันธ์

วันนี้ทางพีพีทีวี จะพามาดูว่ามีอะไรบ้าง ที่ทำให้ชื่อของ ‘นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ถูกค้นหาเป็นจำนวนมากในโซเชียล

ช่วงหาเสียงจนถึงการเลือกตั้ง

เป็นกระแสแรงตั้งแต่ต้นปี ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น นำทีมพรรคก้าวไกล ออกหาเสียงเลือกตั้ง เข้าผู้คุยกับประชาชนรับฟังปัญหา รวมถึงแสดงนโยบายที่สำคัญของพรรคพร้อมย้ำว่า ‘กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’ เข้าร่วมปราศรัยในเวทีต่างๆ อุดมการณ์และจุดยืนที่ชัดเจน ทำให้ประชาชนเริ่มมีความหวังที่จะให้พรรคก้าวไกลและพิธา ชนะการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล

ด้วยเหตุนี้เองทำให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เริ่มถูกจับตามองอย่างมากในโลกโซเชียล และเกิดเป็นปรากฎการณ์ที่ทุกครั้งที่พิธาออกไปลงพื้นที่หาเสียง หรือปราศรัยในจังหวัดต่างๆ ประชาชนต่างพากันมาต้อนรับกันอย่างท่วมท้น

ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ปรากฎผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ คะแนนของ ‘พรรคก้าวไกล’ นำมาเป็นอันดับ 1 โดยได้คะแนนทั้งหมด 14,438,851 เสียง ได้ผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต 112 คน และผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ 39 คน และทำให้ได้จำนวนที่นั่งในสภา 151 ที่นั่ง

ทำให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีโอกาสลุ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ทำให้ประชาชนต่างมีความหวังในการเปลี่ยนแปลงประเทศมากยิ่งขึ้น และในโซเชียลร่วมพูดคุยและถกเถียงรวมถึงค้นหาชื่อของ พิธา เป็นจำนวนมาก

ช่วงหลังการเลือกตั้ง

หลังจากการเลือกตั้ง มีหลายเหตุการณ์ที่เกี่ยวโยงและเป็นกระแสให้คนพูดถึง นายพิธา รวมไปถึงประเด็นเรื่องของ หุ้น ITV เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ชื่อของพิธา ถูกค้นหาและติดเทรนบนโลกโซเชียลอีกครั้ง และสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากในตอนนั้น พิธา กำลังอยู่ในช่วงเตรียมจัดตั้งรัฐบาล และร่วมลุ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ ในโลกโซเชียลต่างกล่าวถึงประเด็นนี้ว่าจะจบอย่างไร และมองว่าเป็นการขัดขวางพิธาและพรรคก้าวไกลไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จหรือไม่คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ บุคคลถูกค้นหามากสุดใน Google ปี 2023!

กรณีของ ITV มีเรื่องโต้กลับไปมาอยู่หลายครั้งไม่ว่าจะเป็น วิดีโอที่เปิดเผยออกมาทีหลัง พบว่าไม่ตรงกับเอกสารในตอนแรก ยิ่งทำให้กระแสในโซเชียลยังคงแรงต่อเนื่อง และในช่วงที่ กกต.สรุปข้อเท็จจริง รวมถึงพยานหลักฐาน และข้อกฎหมาย เพื่อส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารวินิจฉัย ขณะนั้นเองการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ครั้งแรก

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกเสนอชื่อเป็นบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว หากแต่ผลมติทั้งหมด เห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง และงดออกเสียง 199 เสียง เท่ากับมติที่ประชุมรัฐสภายังไม่เห็นชอบที่จะให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีและต้องรอในการประชุมร่วมกันอีกในครั้งที่สอง

ต่อมาประเด็นของ itv มีความคืบหน้า มีการระบุวาระการประชุมพิจารณาเรื่อง กกต.ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยนัดหมายในวันที่ 19กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2

ในวันโหวตนายกครั้งที่ 2 นั้นเองเกิดข้อถกเถียงกันถึงเรื่อง การเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั้น ถือเป็น ‘ญัตติซ้ำ’ หรือไม่ จนเวลา 11.50 น. ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ รับคำร้อง กกต.ที่ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีถูกร้องถือหุ้นสื่อ ITV พร้อมมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 คำสั่งให้ นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

ทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต้องกล่าวอำลาและเดินออกจากที่ประชุมไป และข้อสรุปที่ประชุมสภาในวันนั้นเองมีการลงมติตีความข้อบังคับรัฐสภา ข้อที่ 41 ว่า การเสนอชื่อนายพิธา เพื่อให้พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถือเป็นการนำญัตติที่ตกไปแล้วมาพิจารณาหรือไม่ หรือเสนอชื่อนายพิธาซ้ำไม่ได้ โดยที่ประชุมรัฐสภา มีมติ 395 เสียง ต่อ 312 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง เห็นว่า การเสนอชื่อ นายพิธา เป็นการเสนอญัตติซ้ำ ส่งผลให้การเสนอชื่อ นายพิธาซ้ำอีกครั้ง ไม่สามารถทำได้

ภายหลังการโหวตนายกรอบสองสิ้นสุดลง ก้าวไกลไม่มีโอกาสแม้แต่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ตามกฎหมายในรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 ระบุว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน จะเป็นของ หัวหน้าพรรคการเมืองที่มี สส.มากที่สุด และ สส.ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี รวมไปถึงห้ามมี ส.ส.เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร

เป็นเหตุให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้พรรคก้าวไกลได้รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภา และปัจจุบันนายพิธา ยังอยู่ในภายใต้คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. และไม่สามารถเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎรได้

หลังลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปัจจุบัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังมีบทบาทในการเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลอยู่ และยังคงเป็นบุคคลที่สังคมและโซเชียลให้ความสนใจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะออกงานหรือมีประเด็นอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองก็ตาม