'เศรษฐา' สั่งการต่อยอดทุกความร่วมมือจากการเยือนต่างประเทศ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมุ่งส่งเสริมพลวัตความร่วมมือระหว่างไทยและฮ่องกงในฐานะพันธมิตรทางการค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้เป็นรูปธรรม จากการหารือระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับนายจอห์น ลี คา-ชิว (The Honorable John Lee Ka-chiu) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ในการเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนตุลาคม 2566
โฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลนี้ไม่มีการต่ออายุ เกษียณราชการโดยเด็ดขาด
"เศรษฐา"จ่อนอนชายแดนใต้ ปลาย ก.พ.นี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผลจากความร่วมมือผ่านการหารือดังกล่าว ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์ได้ต่อยอดความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-ฮ่องกง ผ่านการหารือร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำกรุงเทพมหานคร (Hong Kong Economic and Trade Office (HKETO), Bangkok) เน้นย้ำถึงนโยบายการผลักดัน Soft Power ด้านสินค้าและบริการไทยไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร อาทิ ข้าวหอมมะลิและผลไม้ไทยที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวฮ่องกง พร้อมชี้ให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมอาหาร (Future Food) ที่เหมาะสมต่อวิถีชีวิตของคนฮ่องกง มีศักยภาพและความพร้อมที่จะส่งออกข้าวและผลไม้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ตามความต้องการของผู้บริโภคในตลาดฮ่องกง
ทั้งนี้ รัฐบาลส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง HKETO กับธุรกิจและสินค้าไทยสู่ตลาดฮ่องกง ผ่านการจัดกิจกรรมงานแสดงสินค้าอาหาร ผลไม้ ข้าวหอมมะลิ ตลอดจนธุรกิจบริการของไทย อาทิ โรงแรม โรงพยาบาล ในปี 2567 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคชาวฮ่องกงได้รับทราบข้อมูล และสร้างความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและและใช้บริการของไทย โดยจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2567 อาทิ งานประชาสัมพันธ์ด้านโอกาสทางการค้าและการลงทุนฮ่องกง The Thailand – Hong Kong Business Forum (18 มีนาคม 2567) โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์อาหารไทยและธุรกิจบริการอาหารไทย (1 ธันวาคม 2566 – 30 มิถุนายน 2567) โครงการส่งเสริมอาหารไทยผ่านช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ (1 มกราคม – 31 สิงหาคม 2567) การจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจในงาน Hong Kong Film & TV Market 2024 (11–14 มีนาคม 2567) โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ข้าวไทยผ่านร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในตลาดฮ่องกง (มิถุนายน –สิงหาคม 2567) และกิจกรรม Thai Fruits Golden Monthsคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า HKETO สนับสนุนนักธุรกิจไทยไปทำธุรกิจที่ฮ่องกง ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพ ความสามารถของผู้ประกอบการไทย พร้อมชี้ว่า สินค้าแฟชั่นเป็นภาคธุรกิจที่น่าสนใจในตลาดฮ่องกง โดยในปี 2566 พบว่าปริมาณการซื้อสินค้าแฟชั่นเติบโต 43% ขณะที่อัญมณีและเครื่องประดับเติบโต 55% นอกจากนี้ ยังย้ำว่าฮ่องกงยังมีความต้องการด้านอาหารอยู่มาก เช่น โปรตีนทางเลือกและอาหารสุขภาพ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทย
นายกรัฐมนตรี วางแนวทางการทำงาน และได้ติดตามความคืบหน้าด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างไทยกับประเทศ/เขตอาณาที่มีศักยภาพ รวมทั้งได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้สานต่อผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับบุคคลสำคัญจนทำให้เห็นผลสำเร็จ ตกตะกอนเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ยินดีที่ฮ่องกงสนับสนุนธุรกิจและสินค้าไทยในตลาดฮ่องกง เชื่อว่าสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างไทย-ฮ่องกง ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกอบการ และประชาชนของทั้งสองแห่ง