สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม หลังครบรอบ 2 ปี สงครามในยูเครน
23 ก.พ. 2024ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อรัสเซีย โดยมุ่งเป้าไปที่บุคคลและองค์กรเกือบ 300 รายชื่อ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการลงโทษบุคคลและองค์กรต่างๆ อีกกว่า 250 รายชื่อ และกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ทำการเพิ่มรายชื่อบริษัทมากกว่า 90 แห่งของรัสเซีย จีน ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่น ๆ เข้าไปในบัญชีดำของสหรัฐฯ
“อเล็กเซ นาวาลนี”ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซีย คู่ปรับ "ปูติน" เสียชีวิตในเรือนจำ
สหรัฐฯ เผย รัสเซียเริ่มใช้ขีปนาวุธเกาหลีเหนือโจมตียูเครนแล้ว
“ปูติน” ออกกฤษฎีกาจูงใจชาวต่างชาติ ได้สัญชาติรัสเซีย หากร่วมกองทัพสู้รบในยูเครน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียได้มุ่งเป้าไปที่ระบบการทำธุรกรรมการเงินของรัสเซีย ชื่อว่า เมียร์ (Mir) มีสถาบันการเงินต่าง ๆ เช่น ธนาคาร SPB ซึ่งมี SPB Exchange เป็นเจ้าของ รวมไปถึงฐานอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซีย ภาคพลังงานและภาคส่วนอื่น ๆ เช่น บริษัทผู้ผลิตทองคำ บริษัทผู้ผลิตท่อ บริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของรัสเซีย รวมทั้งบริษัท “ออรุส” (Aurus) ค่ายรถหรูสัญชาติรัสเซียที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินเพิ่งมอบรถลีมูซีนของบริษัทดังกล่าวให้เป็นของขวัญกับ คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังมีมาตรการลงโทษต่อเจ้าหน้าที่เรือนจำของรัสเซีย โดยสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ อเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำต่อต้านรัฐบาลรัสเซียอีกด้วย
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ระบุว่า “มาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่า ประธานาธิบดีปูตินจะต้องชดใช้ต่อความก้าวร้าวในการรุกรานต่างประเทศ และปราบปรามผู้เห็นต่างในประเทศ” พร้อมเตรียมวางแผนหารือประเด็นของรัสเซียกับผู้นำกลุ่ม G7 สหภาพยุโรป และนาโตในเร็ว ๆ นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เอเวลิน ฟาร์กัส นักวิเคราะห์ มองว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียจะไม่ได้ผล หรือไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนเกมใด ๆ ในสมรภูมิสงคราม แต่สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จริง ๆ คือการส่งอาวุธยุทโธปรกณ์ และปืนใหญ่ที่ยิงระยะไกลได้ ให้กับยูเครนโดยทันที เพราะในอดีตเห็นได้ชัดว่า แม้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรจะคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่เศรษฐกิจของรัสเซียก็ยังฟื้นตัวได้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจรัสเซียอยู่ในทิศทางที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเมื่อเดือนม.ค.67 ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คาดการณ์ว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของรัสเซียจะเติบโต 2.6% ในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เดิมในเดือนต.ค.66 ราว 1.5% แปลว่าการคว่ำบาตรรัสเซียจากสหรัฐฯ หรือยุโรปไม่ได้ทำให้รัสเซียมีปัญหาทางกาารเงินแต่อย่างใด